อ้วน ลงพุง คุมอาหารก็แล้ว แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมถึงยังอ้วนพุงพลุ้นอยู่เหมือนเดิม หรือว่าคุมอาหารผิดวิธี แล้วเราจะแก้ปัญหาโลกแตกนี้ได้ยังไงดี??? เราขอแนะนำในบทความนี้ค่ะ
อ้วน ลงพุง สาเหตุ มาจากไหน
ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี หากรู้สึกว่าพุงเริ่มใหญ่ขึ้นๆทุกวัน คงทำให้รำคาญและหงุดหงิดใจไม่น้อย เพราะรูปร่างถือเป็นบุคลิกภาพที่สร้างความมั่นใจและความโดดเด่นให้กับคนเราได้ เกือบทุกคนจึงปรารถนาจะมีรูปร่างที่ดี ในช่วงวัยหนุ่มสาวอาจใช่ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน บางรายยังไม่ถึงปีก็รู้สึกได้ว่าท้องเริ่มจะสะสมเป็นพุงและเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน บางคนพยายามทานน้อย ควบคุมอาหาร ขยับร่างกายด้วยการออกกำลังกาย
แต่ส่วนหนึ่งของร่างกายที่ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจนและไม่ยอมลดนั่นก็คือ “พุง” และจะเห็นว่ามันใหญ่ขึ้นๆจนน่าเกลียด ในบางรายอาจพ่วงอาการทานอาหารแล้วไม่ย่อย แก็สในกระเพาะอาหารมาก ทานผักมากแล้วแต่การขับถ่ายยังไม่ดี ท้องอืดง่าย ลมค้างในกระเพาะอาหาร เลอบ่อยๆฯลฯ บางรายอาจเริ่มมีอาการปวดเมื่อยหลัง เมื่อยคอและสะบัก ตามมา ฯลฯ อาการทั้งหมดนี้เป็นเสียงเตือนจากร่างกายที่พยายามบอกว่าระบบต่างๆ ภายในร่างกายเริ่มแปรปรวน ทำงานไม่เป็นปกติแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นโรค สัญญาณต่างๆ เหล่านี้เป็นระฆังเตือน เพียงแต่เราจะสนใจมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
อ้วน ลงพุง ปัจจัยอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงลักษณะของร่างกายที่การเผาผลาญลดลง จึงเป็นผลต่อการมีหน้าท้อง มีพุง ซึ่งต่างก็เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ขอยกตัวอย่างเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
- อายุ ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้การเผาผลาญของร่างกายและการทำงานของอวัยวะต่างๆด้อยประสิทธิภาพลง ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ เพราะร่างกายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรามักทำให้ร่างกายเสื่อมก่อนวัยอันควร ในทางกายวิภาคศาสตร์ร่างกายจะเริ่มเสื่อมที่อายุ 65-70 ปีขึ้นไป แต่ด้วยพฤติกรรมในปัจจุบันทำให้ร่างกายเสื่อมตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปีก็มี กลุ่มคนที่เสื่อมก่อนวัยมักจะพบว่าอัตราการเผาผลาญก็ลดลงด้วยเช่นกัน
- การทานอาหาร คนในยุคปัจจุบันมักทานอาหารตาย ที่ทำให้เราอายุสั้นกว่าวัย คืออาหารที่มากไปด้วยแป้ง น้ำตาลและไขมัน ไม่มีผักหรือผลไม้สดๆ อีกทั้งยังมีสารเคมีปะปนจนทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ อาหารตายจะปราศจากเอ็นไซม์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญ เป็นตัวช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและการเผาผลาญในร่างกาย โดยปกติร่างกายมีเอ็นไซม์อยู่แล้ว แต่การทานอาหารที่ไม่ได้สัดส่วน เกินความต้องการของร่างกาย เอ็นไซม์ในร่างกายจึงไม่เพียงพอ ร่างกายต้องใช้พลังงานมหาศาลในการย่อย ทำให้เกิดอาการเพลีย ง่วงมากเป็นพิเศษ เรียกว่า “เมาแป้ง” ส่งผลต่อคุณภาพของการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพ
- ท่าทางในการทำงาน 90 % ของคนทำงานจะเป็นท่านั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ วิถีชีวิตทุกวันหลังทานเสร็จก็ต้องนั่งทำงานต่อ วันหนึ่งๆต้องนั่งต่อเนื่องยาวนาน 8-10 ชั่วโมง ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อช่วยการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งจะทำงานได้ดีหากร่างกายมีการเคลื่อนไหว (Peristalsis) เพื่อส่งเสริมให้การย่อยดีขึ้น การทานเสร็จแล้วนั่ง ประสิทธิภาพการย่อยก็ลดลง สารอาหารที่จะถูกดูดซึมไปเป็นอาหารเซลล์ก็ไม่มี ผลคือร่างกายจะพอกพูนไว้ในรูปไขมัน สะสมเป็นหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นๆ เป็นพุงที่ใหญ่เกินจะลดได้ง่ายๆ
- ระบบโครงสร้างร่างกาย ที่ผิดปกติจะส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญในร่างกายอย่างมาก เนื่องจากระบบโครงสร้างร่างกายประกอบไปด้วยระบบการไหลเวียนของร่างกายเป็นหลัก คือระบบเลือด ระบบน้ำเหลืองและระบบประสาท การเผาผลาญของร่างกายวัดได้จากค่าความร้อนหรืออุณหภูมิปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น ในขณะที่อวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานอยู่ ค่าความร้อนเหล่านี้จะแปรผันตรงกับการไหลเวียนของเลือด พื้นฐานการมีสุขภาพดีของคนเราเริ่มต้นจากมีการไหลเวียนเลือดที่ดี เพื่อนำเอาออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ไปสู่เซลล์ เมื่อเซลล์ในร่างกายได้รับอาหารที่ดี การขับของเสียดี เซลล์ก็แข็งแรงสมบูรณ์ ร่างกายก็เสมือนมีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บได้ดี ศักยภาพการทำงานของแต่ละอวัยวะก็สามารถทำงานได้เต็มที่ อีกนัยหนึ่งหากระบบกระดูกกล้ามเนื้อสมดุล คือแข็งแรงและยืดหยุ่นดี ก็ส่งเสริมให้การไหลเวียนของเลือดดีเพิ่มขึ้น เพราะหลอดเลือด ต่อมน้ำเหลืองต่างๆ รวมถึงเส้นประสาทต่างทอดผ่านลายกล้ามเนื้อนั่นเอง
- การปรับโครงสร้างร่างกาย ไม่เพียงแต่ทำให้ระบบต่างๆของร่างกายสมดุล-แข็งแรงทำงานเต็มประสิทธิภาพ เท่านั้น แต่ผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่หลายท่านพึงพอใจมากนั่นคือ ได้รูปร่างที่ดี กล้ามเนื้อกระชับ ไม่มีไขมันส่วนเกินบุคลิกภาพดี เมื่อโครงสร้างร่างกายสมดุล กล้ามเนื้อกระชับแข็งแรง ไขมันก็ถูกใช้หายไปเอง โดยไม่กลับมาอ้วนอีก
จากที่กล่าวมาทั้งหมดอาจตอบคำถามให้กับหลายท่านได้ว่าปัญหาแท้จริงของการมี พุง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรืออ้วนขึ้นมากกว่าปกตินั้น มีสาเหตุมาจากไหน หลายท่านที่พยายามคุมอาหารแต่ก็ยังอ้วนมาก อาหารไม่ค่อยย่อย รวมถึงรู้สึกหลังแอ่น ไหล่งุ้ม ยืดตัวไม่ขึ้น เมื่อยหลัง เมื่อยคอเป็นประจำ เรื้อรังจนเริ่มรบกวนจิตใจ ท่านควรต้องตรวจสุขภาพโครงสร้างร่างกายบ้างแล้ว เพราะหากปล่อยไว้ นอกจากจะทำให้บุคลิกแย่ลงแล้ว อาจพ่วงโรคร้ายแรงหลายๆโรคตามมา ไม่ว่าจะเป็นคลอเรสเตอรอลสูง ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ เป็นบันไดนำไปสู่ความทุกข์ในครอบครัว ทั้งตัวเองและลูกหลานค่ะ
ติดตามเรื่องราวเพื่อรู้จักร่างกายและคอยฟังเสียงเตือนจากร่างกายได้ในฉบับต่อไปนะคะ
หากสนใจบริการของเรา สามารถคลิกได้ที่ ariyawellness.com/services/
ช่องทางติดต่อ Inbox ทางเพจ Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/ariyawellnesscenter