กระดูกสันหลังคด คือ ภาวะความผิดปกติที่พบได้ทุกเพศทุกวัย พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พบมากในช่วงวัยรุ่น และวัยทำงาน ภาวะหลังคดนี้นอกจากจะทำให้บุคลิกภาพไม่ดีแล้วยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคหรืออาการต่างๆตามมาได้อีกมากมายค่ะ
กระดูกสันหลังคด สัญญาณเตือนของร่างกาย
เสียงเตือนจากร่างกายในตอนนี้ อาจเป็นเสียงเตือนของหลายท่านเลยทีเดียว เพียงแต่หลายท่านอาจจะละเลยกับเสียงเตือนนี้ไปเนื่องจากมองข้ามความสำคัญ ท่านเคยสังเกตไหมว่า ทำไมบางกิจกรรมที่เคยทำเป็นกิจวัตรประจำวัน กลับดูเหมือนลำบากมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เช่น เดินในระยะใกล้ๆ เดินขึ้นบันได เดินข้ามสะพานลอย ฯลฯ กิจวัตรประจำวันเหล่านี้จะทำให้ท่านรู้สึกเหนื่อยง่ายเหนื่อยหอบมากกว่าปกติ หายใจลำบากหรือที่เรียกกันว่าหายใจไม่อิ่ม
แม้แต่การหายใจธรรมดาๆ ท่านเคยได้สังเกตร่างกายที่เตือนเราหรือไม่ว่าทุกครั้งที่หายใจรู้สึกเหมือนหายใจไม่สุด หายใจได้ไม่ลึกเท่าที่ควร หายใจสั้นและเร็วกว่าเดิมมาก จนรู้สึกเหมือนไม่อยากจะหายใจ
ซึ่งจากปัญหาเล็กๆที่เรามองข้ามอาจสะสมให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ (Intercostal muscle) มากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ทำให้เราเป็นคนนอนมากแต่เพลีย นอนมากเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้สึกพอตื่นขึ้นด้วยอาการเพลียเหมือนนอนไม่อิ่ม ง่วงและหาวบ่อยๆ ทั้งที่นอนมาก เป็นต้น อาการเหล่านี้ร่างกายกำลังบอกคุณเป็นนัยว่าคุณอาจมีภาวะกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) ก็เป็นได้
กระดูกสันหลังคด มีกี่แบบ
กระดูกสันหลังคดคือความผิดปกติ หรือผิดรูปของกระดูกสันหลัง แบ่งได้สองแบบคือ
1. กระดูกสันหลังคดแต่กำเนิด (Congenital Scoliosis) การคดเช่นนี้มักเป็นมาตั้งแต่เกิด และส่งผลให้พัฒนาการทางร่างกายมีความผิดปกติร่วมด้วย จะแก้ไขให้กระดูกอยู่ในแนวที่ถูกต้อง 100% ไม่ได้ แต่สามารถปรับให้ดีขึ้นได้ระดับหนึ่งตามสภาพความรุนแรงของอาการ สามารถชะลอความเสื่อมที่เกิดจากการคด ไม่ให้รุนแรงและรวดเร็วเกินไป การคดแบบนี้มีผลต่อการทำงานของปอดค่อนข้างมาก อาการมักรุนแรง และจำกัดการขยายตัวของปอด
2. กระดูกสันหลังคดจากท่าทางที่ผิด (Functional Scoliosis) การคดแบบนี้เกิดจากท่าทางผิดปกติ ที่เกิดขึ้นซ้ำทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมงและต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ท่าทางเหล่านี้เป็นการทำงานของร่างกายที่ไม่สมดุล เช่น การนั่งไขว้ห้าง การนั่งท้าวแขน นั่งลงน้ำหนักที่ก้นด้านเดียว สะพายกระเป๋าด้านเดียว ยืนพักขา การวางจอคอมพิวเตอร์เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ อุปนิสัยเช่นนี้เมื่อท่านเคยชินก็จะทำโดยไม่รู้ตัวและสะสมให้เกิดกระดูกสันหลังคดในที่สุด
แนวกระดูกสันหลังที่คดและบิดไปจะมีผลโดยตรงต่ออวัยวะต่างๆภายในร่างกาย โดยเฉพาะปอดและหัวใจ เพราะปอดจะต้องได้รับอากาศจากการหายใจเข้า ซึ่งต้องอาศัยการขยับตัวของชายโครงให้กางออก ปอดจึงสามารถขยายตัวได้เต็มที่ แต่หากการขยายตัวนี้ถูกจำกัดจากอาการหลังคด ทำให้ชายโครงกางออกไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าปอดย่อมได้รับอากาศเข้าไปน้อย บางท่านอาจคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่จะส่งผลต่อร่างกาย แต่ในระยะยาวร่างกายจะสะสมความติดขัดจากการหายใจไปเรื่อยๆ พอกพูนจนหายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย ภาวะดังกล่าวจะส่งผลต่อระบบอื่นๆ
อีกทั้งระบบโครงสร้างร่างกาย ข้อต่อกระดูกสันหลังยึดติด/ขาดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อติด/แข็งเป็นพังผืด การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก การขับของเสียด้อยประสิทธิภาพ และยังเป็นที่มาของอาการปวดต่างๆ ทำให้เป็นโรคความเสื่อมก่อนวัย นอกจากนี้ยังรบกวนไปถึงการนอนที่ทำให้ไม่ผ่อนคลาย ร่างกายจึงทำการซ่อมแซมได้น้อยลงส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานลดลง ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยง่ายแต่หายยาก
ทุกท่านเห็นไหมคะ? สัญญาณเตือนของร่างกายเรานั้นวิเศษมากเพียงใด เพราะเพียงแค่การส่งสัญญาณเตือนเล็กๆน้อยๆของร่างกายที่บอกเราก่อนตั้งแต่เริ่มต้นมีความผิดปกตินั้นสำคัญที่สุดและง่ายต่อการดูแล/แก้ไข แต่ส่วนใหญ่เรากลับไม่สนใจ ปล่อยปละละเลยไว้จนทำให้เกิดปัญหาใหญ่ ท่านจะเลือกดูแลตัวเองก่อนหรือจะรอให้เป็นโรคแล้วค่อยรักษา ? เพราะหากจัดว่าเป็นโรคแล้ว ยากเหลือเกินที่จะทำให้ร่างกายกลับมามีประสิทธิภาพได้เหมือนเดิม
ฉบับหน้ามาคอยกันดูว่า เมื่อเสียงของร่างกายเตือนเรา เราจะเลือกจัดการกับสัญญาณนี้อย่างไรแล้วพบกันค่ะ
หากสนใจบริการของเรา สามารถคลิกได้ที่ ariyawellness.com/services/
ช่องทางติดต่อ Inbox ทางเพจ Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/ariyawellnesscenter