ปวดกล้ามเนื้ออักเสบ จากการออกกำลังกาย ภัยเงียบกว่าที่คิด สาเหตุเพราะอะไร นี่คือหนึ่งในภัยเงียบที่อาจจะทำให้เราเจ็บป่วยและปวดกล่ามเนื้อเรื้อรังอย่างคาดไม่ถึงค่ะ
ทุกปีใหม่เมื่อผ่านพ้นไปหนึ่งปี ตัวเลขอายุของเราเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันอายุขัยของเราจะเริ่มลดลง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่คอยเตือนใจเราว่า ในปีที่ผ่านมาๆ มีอะไรบ้างที่เราได้ทำแล้ว และอะไรที่ยังไม่ได้ลงมือทำ ถือเป็นสิ่งดีสำหรับหลายท่านที่นิยมเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ให้เป็นของขวัญสำหรับตัวเอง เช่นเดียวกันกับหลายเคสที่ผู้เขียนได้พบ หลายคนตั้งใจว่าปีนี้ฉันจะเป็นคนใหม่ ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย นอนไว ทานแต่สิ่งดีมีประโยชน์ ฯลฯ
แต่หลายเคสที่มาหาผู้เขียนก็ตระหนักไม่ได้ถึงภาวะร่างกายตนว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงใด จึงออกกำลังกายหักโหมเกินกำลัง จนเกิดอาการบาดเจ็บ และยังฝืนเล่น จนความเจ็บปวดเรื้อรังถึงขั้นกล้ามเนื้อฉีก และเกร็งตัวค้างไปซะอย่างนั้น กลายเป็นโทษต่อร่างกายที่น่ากลัวมากค่ะ
สำหรับเคสที่พบบ่อย (ก่อนหน้าการกักตัวจากโควิด-19) คือกลุ่มคนที่มีความตั้งใจสูง อยากจะออกกำลังกาย แล้วก็พาตัวเองกระโจนเข้ายิม เล่นเครื่อง ใช้น้ำหนักหักโหม โดยไม่เคยรู้จักกล้ามเนื้อ ไม่เคยตรวจโครงสร้างร่างกาย ไม่เคยรู้ศักยภาพการใช้งานของกล้ามเนื้อตัวเอง ไม่ได้เตรียมร่างกายทั้งก่อนและหลังเล่น โดดไปเล่นทั้งกล้ามท้อง หลัง ขา หน้าอก แขน ฯลฯ แล้วเล่นแบบต้องเจ็บตัวไปตามๆกันเลยค่ะ อาการของเคสหลายท่านที่มามีอาการคล้ายๆ กัน จึงขอสรุปรวมดังนี้ค่ะ
ปวดกล้ามเนื้ออักเสบ จากการออกกำลังกาย คืออะไร
ที่ผ่านมาเราได้พบเคสน่าสนใจที่มาตรวจพร้อมด้วยอาการปวดบริเวณ กล้ามหน้าท้อง เจ็บชายโครง และปวดหลัง ซึ่งตามที่ผู้ป่วยแจ้งมาก็คืออาการเจ็บปวดนี้จะเป็นอยู่ตลอดเวลาด้วย ไม่ว่าจะขยับตัว เอี้ยวตัว นอนตะแคง ดันตัวขึ้นจากท่านอน ลุกจากท่านั่งหรือแม้กระทั่งหายใจ ก็เจ็บตามชายโครง บางเคสเสียวแปล๊บไปตามขอบด้านในของสะบัก ซ่าๆ ชาๆ ตรงบริเวณสะบักและหลัง
แล้วเมื่อจับหรือกดบริเวณที่มีอาการก็จะเจ็บ ปวดร้าวตามกล้ามเนื้อต้นแขน ศอก และมือ ฯลฯ อาการทั้งหมดนี้เคสไม่ได้เป็นหลังจากเล่นทันทีหรอกนะคะ แต่จะเป็นหลังจากที่เล่นไปแล้ว 1-2 วัน
แต่สิ่งที่น่ากลัวมากก็คือการที่คนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจผิดๆกันอยู่ว่า ยิ่งเล่นจนเจ็บยิ่งดี ต้องไปเล่นซ้ำให้กล้ามเนื้อได้แข็งแรงแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อจะหายไปเอง
“แต่ที่จริงแล้วคำกล่าวนี้ถือว่าใช้ไม่ได้ค่ะ”
เพราะที่จริงการสร้างกล้ามเนื้อไม่มีความจำเป็นต้องให้เจ็บปวดหรือบาดเจ็บ ดังนั้นเราต้องแยกให้ได้ระหว่างการบาดเจ็บ ความเจ็บปวดกับการฝึกกล้ามเนื้อ และการหยุดพักเพื่อให้กล้ามเนื้อพัฒนาให้แข็งแรง กับการเล่นซ้ำเพื่อความแข็งแรงเพิ่มขึ้น แม้ว่าการฝึกจะต้องฝืนร่างกายให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำก็จริง ต้องเพิ่มกำลังหรือเวลาขึ้นก็ตาม ก็ควรเป็นเพียงอาการล้าๆ ของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานค่ะ ไม่ใช่แบบเคสที่ยกมาก็คือ มีอาการสาหัสแบบเอี้ยวตัว ขยับตัว หายใจก็เจ็บ อันนี้ถือว่ามากเกินไปค่ะ
ซ้ำร้ายกว่านั้นการเข้าใจผิดเช่นนี้ ทำให้เคสต้องไปเล่นต่อ จนปวดเพิ่มขึ้นๆ ทุกวัน และมากจนไม่สามารถแม้แต่จะหยิบยกของได้ หายใจก็ต้องเบาๆ เพราะเจ็บ อย่างนี้จะเรียกว่าแข็งแรงได้อย่างไรคะ กลายเป็นอ่อนแอลงมกกว่า สิ่งเหล่านี้จะแก้ให้หายขาดได้ไม่ยาก การจะฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม รู้จักควบคุมกล้ามเนื้อมัดที่ต้องทรงลำตัวเพื่อความมั่นคงและเคลื่อนไหวออกแรงให้ถูกมัดกล้ามเนื้อที่ต้องการฝึก ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานการออกกำลังกาย รู้จักกล้ามเนื้อ รู้จักโครงสร้างร่างกายตนเอง เข้าใจระบบร่างกายทั้งเรื่องอาหาร การใช้ชีวิต ถ้าได้ดังนี้การออกกำลังกายจึงจะเป็นผลดีต่อร่างกาย และพบความแข็งแรงอย่างแท้จริง ไม่ใช่ยิ่งออก ยิ่งทำให้เจ็บตัว และอาจตามด้วยโรคภัยในอนาคตนะคะ
ปวดกล้ามเนื้ออักเสบ จากการออกกำลังกาย เกิดขึ้นได้ยังไง
จากที่กล่าวมา ตอนนี้หลายท่านคงสงสัยว่าอาการปวดกล้ามเนื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร? แล้วการปรับโครงสร้างร่างกายจำเป็นต่อการออกกำลังกายมากน้อยเพียงใด? ผู้เขียนจะไขปัญหาเหล่านี้ให้ค่ะ
ส่วนมากแล้ว อาการปวดของกล้ามเนื้อมักเกิดจากสภาพที่ ทุกครั้งในการหดตัวของมัดกล้ามเนื้อสำหรับการออกแรงเคลื่อนไหวหรือยกน้ำหนักนั้นๆ จะต้องมีการดึงพลังที่สะสมไว้มาใช้ โดยผ่านกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย (glycolysis) ซึ่งผลท้ายสุดจากการที่กล้ามเนื้อหดตัว จะทำให้เกิดการคั่งของกรด แลคติก (lactic acid) ซึ่งหากกล้ามเนื้อหดตัวซ้ำๆ ก็จะทำให้มีกระบวนการคั่งของกรดแลคติกมากขึ้น ถ้าร่างกายขับออกมาหรือดึงออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญไม่ทัน ก็จะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อในการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีการเมื่อยล้าเป็นปกติ
แต่ในเคสที่ผู้เขียนกล่าวถึงนี้ นอกจากกระบวนการดังกล่าวข้างต้นแล้วเคสยังออกแรงผิดคือ เมื่อกล้ามเนื้อส่วนที่ต้องใช้ออกแรงนั้นล้า ร่างกายก็ทดแทนด้วยการใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ แทนเพื่อให้ได้แรงในการเล่น จึงทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อ (micro tears in muscle fibers) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดลึก หน้าที่หลักของกล้ามเนื้อกลุ่มนี้คือการทรงตัว พยุงให้กระดูกสันหลังตั้งตรง และยังเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ (core stabilizer muscles & intercostals muscle)ฯลฯ ซึ่งเขาทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว หากต้องดึงไปช่วยเพื่อทดแทนการทำงานของกล้ามเนื้อมัดอื่นจากการเล่นที่หักโหมเกินไป ขาดการควบคุมการทรงท่าของร่างกายที่ถูกต้องในการออกแรงกล้ามเนื้อ จึงทำให้เกิดการฉีกขาดขึ้น
แนวทางป้องกันและรักษาอาการปวดกล้ามเนื้ออักเสบ
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายมนุษย์เราเป็นสิ่งที่ถูกสร้างให้เคลื่อนไหวและออกแรงก็จริงค่ะ แต่หากเราหักโหมออกกำลังกายและใช้แรงมากเกินไปในขณะที่ร่างกายเรายังไม่พร้อม ก็มักจะเกิดปัญหาให้เห็นกันหลายครั้ง ซึ่งทั่วไปแล้วร่างกายจะมีกลไกลในการเตือนเราอยู่แล้ว แต่เรากลับละเลยไม่สนใจอาการที่กำลังฟ้องอยู่ จึงทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมากับร่างกายค่ะ เคสสาหัสที่ผู้เขียนกล่าวถึงนั้นนอกเหนือจากการบาดเจ็บจากกระบวนการต่างๆ แล้ว เมื่อตรวจดูจึงพบว่า ร่างกายเขามีการบิดคดของกระดูกสันหลังอยู่ก่อน เพราะชายโครงทั้งด้านหน้าและด้านหลังปูดออกมาไม่เท่ากัน จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาออกแรงกล้ามเนื้อผิดที่ ท่านนี้ให้ฝึกถูกอย่างไรก็ไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อให้ถูกมัดได้ ร่างกายจึงทดแทนด้วยการดึงเอากล้ามเนื้อในการหายใจมาใช้ จากการเล่นกล้ามท้องที่จุดเกาะของกล้ามเนื้อมัดนี้ไปเกาะที่กระดูกชายโครง เขาจึงเจ็บมากทุกครั้งที่หายใจหรือเพียงการเอี้ยวตัว บิดตัว นั่นเอง
สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ สามารถทำการรักษาได้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าหากพบว่ามีอาการเมื่อยล้ามากๆ แนะนำว่าการรักษาด้วยการทำ Muscle Detox จะเป็นการช่วยดึงกรดแลคติกที่คั่งค้างในกล้ามเนื้อออกมาได้เป็นอย่างดี
สำหรับการทำ Muscle Detox เป็นหนึ่งในกระบวนการปรับโครงสร้างร่างกาย และการปรับโครงสร้างร่างกายนั้นจะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ เนื่องจากจะทำให้กล้ามเนื้อตลอดทั้งร่างกายวางเรียงตัวอยู่ในแนวที่สมดุล ผู้ที่ได้ปรับโครงสร้างร่างกายก็จะรู้จักร่างกายตัวเอง ได้ทราบว่าการออกแรงของกล้ามเนื้อแต่ละส่วนเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเต็มช่วงการเคลื่อนไหวนั้นต้องรู้สึกอย่างไร และได้ทราบการ control กล้ามเนื้อที่พยุงข้อต่อและกระดูกสันหลัง
ที่สำคัญคือขณะออกแรงเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่นั้นต้อง control อย่างไรไม่ให้เกิดการทดแทนการทำงานของกล้ามเนื้อมัดอื่น จึงเป็นผลให้การฝึกนั้นสมบูรณ์ ได้ประสิทธิภาพและป้องกันการบาดเจ็บของข้อต่อต่างๆ การรู้จักร่างกายตัวเองด้วยการปรับโครงสร้างร่างกายก่อนเริ่มต้นการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก ถือเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างยิ่ง เพราะหากไม่เตรียม เมื่อร่างกายถึงจุดหนึ่งที่ไม่ไหวแล้ว อาการต่างๆ จะฟ้องมากมาย เช่นเคสมาที่มาพบผู้เขียน ถ้าแก้ไขไม่ทัน อาจรุนแรงถึงขั้นกระดูกเสื่อมทับเส้นประสาทก่อนวัยเพราะใช้งานกล้ามเนื้อผิด ไม่คุ้มเลยใช่ไหมคะ
คราวนี้ท่านผู้อ่านคงจะชัดเจนมากพอสมควรนะคะ กับการเตรียมพร้อมร่างกายเพื่อให้สิ่งที่ดีต่อร่างกายจริงๆ โดยไม่เป็นผลเสีย ผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส เข้ายิมทั้งที่นานแล้วและที่พึ่งเริ่ม ควรได้รับการตรวจโครงสร้างร่างกาย ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอาการ เพราะทำให้ท่านได้ทราบถึงความพร้อมและเป็นการรีเช็คว่าท่านเล่นได้ถูกต้องตามความต้องการจริงหรือไม่? เวลาเปลี่ยน อากาศก็แปรปรวนดูแลสุขภาพนะคะ ไว้พบกันใหม่ครับ
หากสนใจบริการของเรา สามารถคลิกได้ที่ ariyawellness.com/services/
ช่องทางติดต่อ Inbox ทางเพจ Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/ariyawellnesscenter