อาการปวดหลังที่เสียงเตือนของร่างกายพยายามบอกเรานั้น ได้กล่าวมาหลายตอนก่อนหน้านี้ แต่มีอีกหลายสาเหตุที่ร่างกายพยายามเตือนเราว่าร่างกายเรามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น มาดูกันค่ะว่าฉบับนี้เสียงเตือนของร่างกายจะเตือนอะไรเกี่ยวกับเรื่องของการปวดหลังได้อีกบ้างค่ะ
คุณเคยสงสัยไหมว่า?????…….
กระดูกหลังเสื่อม ยังไม่แก่ ไม่ต้องกลัว!
อายุมากกระดูกสันหลังต้องเสื่อมเป็นธรรมดาหรือเปล่า?
แล้วทำไมคนแก่บางคนกระดูกไม่เสื่อม แก่แล้วจำเป็นต้องเสื่อมทุกคนหรือ?
ความจริงเกี่ยวกับกระดูกสันหลังเสื่อมเป็นอย่างไรเรามาดูกันค่ะ…….
กระดูกสันหลังเสื่อม (Lumbar Spondylosis) ส่วนใหญ่คนจะเข้าใจว่าตัวกระดูกเองที่เสื่อม อันที่จริงความเสื่อมเริ่มเกิดขึ้นเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งตัวหมอนรองกระดูกจะมีหน้าที่ช่วยลดแรงกระแทก ทำให้การเคลื่อนไหวของหลังเกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว หากกล้ามเนื้อแกนกลางกระดูกสันหลังไม่แข็งแรงพอก็มักทำให้หมอนรองกระดูกต้องถูกกระแทกมาก ยิ่งใช้ร่างกายหนัก ก็ยิ่งทำหมอนรองกระดูกเสื่อมได้เร็ว และเมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมแล้ว แต่หากไม่รักษาหรือดูแลได้ไม่ถูกทาง ความเสื่อมก็เริ่มลุกลามไปที่ข้อต่อ เส้นเอ็น กระดูก และกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หลังขาดความยืดหยุ่น แข็งตัว ทรุด มีแรงเสียดสี เกิดหินปูนหรือกระดูกงอก ทำให้เกิดการหนาตัวของข้อต่อ การหนาตัวของเส้นเอ็นที่ให้ความมั่นคงของกระดูกสันหลัง และทำให้รุนแรงกลายเป็นโพรงประสาทตีบแคบในที่สุด (Spinal Stenosis) ความน่ากลัวของโรคนี้ไม่เพียงแค่มีอาการปวดหลัง ปวดสะโพก หรือปวดร้าวลงขาเท่านั้น แต่อาจทำให้กระดูกทรุดทับเส้นประสาท ทำให้ชา ซ่า ๆ ตามแนวของเส้นประสาท อ่อนแรง หรืออาจทำให้เดินไม่ได้ หรืออัมพฤกษ์ก็เป็นได้หากไม้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องหรือเหมาะสม
อาการของโรคนี้มักเริ่มต้นจากปวดเมื่อยหลังธรรมดา แล้วรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้รับการรักษา อาจเคยมีประวัติหมอนรองกระดูกปลิ้นหรือแคบมาก่อน เคยล้มหรือได้รับอุบัติเหตุก้นหรือหลังกระแทก ซึ่งโรคนี้จะถูกวินิจฉัยว่ากระดูกเสื่อม – โพรงประสาทตีบแคบส่วนใหญ่ก็มักรุนแรงค่อนข้างมากแล้ว อาการแสดงของโรคนี้มีดังนี้
อาจเริ่มปวดหลัง ปวดร้าวลงสะโพกหรือขา
ปวดตรงบั้นเอวต่อกับสะโพก
ยืนและเดินนานเหมือนขาจะทรุด ไม่มีแรงเดินต่อ เข่าอ่อน
ดีขึ้นเมื่อนั่ง หรือได้นอนพัก
จะเป็นมากขึ้นหรือปวดมากขึ้นทุกครั้ง เมื่อยืนหรือเดินนาน (ขึ้นอยู่กับความรุนแรง)
ตื่นนอนมาแล้วรู้สึกปวดหลัง ขยับหลังพลิกลุกลำบาก
ขยับตัว เอี้ยวตัว เปลี่ยนท่ามักรู้สึกเสียวแปล๊บที่หลัง
ฯลฯ
หลังเสื่อมนั้นหากเราใช้ร่างกายหนัก ก็มักเกิดการกดอัดเพิ่มที่หมอนรองกระดูก โรคนี้อาจพบมากในคนสูงวัยคือพบตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปก็จริง แต่ปัจจุบันก็พบในวัยทำงาน เด็กวัยรุ่นที่เล่นกีฬาที่มีการกระแทกหนักๆ และบ่อยครั้ง ซึ่งการเล่นกีฬาหนักๆ หากสภาพร่างกายไม่แข็งแรงหรือไม่ได้ออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตัวพยุงแกนกลางระดูกสันหลังเลยก็มักทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมก่อนวัยอันควรได้ หรือเคสที่ไม่ออกกำลังกายเลย นั่งนานเช่นคนทำงานออฟฟิศ ผู้บริหารที่นั่งประชุมทั้งวันโดยไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ เหล่านี้ก็มักทำให้พบว่าที่สุดก็จะทำให้เสี่ยงต่อกระดูกเสื่อม….
การรักษาโรคนี้หากเริ่มแก้ไขตั้งแต่เนิ่น เช่นเริ่มจัดการตั้งแต่เริ่มรู้สึกปวดหลัง ไม่ละเลยกับอาการปวด ไม่ละเลยกับเสียงเตือนต่างๆ ของร่างกายที่กำลังบอกบางสิ่งอยู่ ก็จะทำให้การรักษาง่ายและหายขาดได้ไม่อยาก แต่หากปล่อยไว้นานก็มักต้องทรมาน ปวดมาก กระทบถึงเส้นประสาท ไม่แค่ปวด แต่จะทั้งชาและอ่อนแรง การรักษายาก พัฒนาการของการรักษาก็ช้านาน หรือการรักษาก็มักไม่มีทางเลือกนอกจากการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว และที่น่ากลัวคือการผ่าตัดก็อาจไม่สามารถแก้ปัญหาโรคนี้ได้ 100%
ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดเสียว หรือปวดร้าวลงขา หรือยืนเดินนานเหมือนเข่าทรุด ล้าขา ไม่ควรปล่อยไว้ ควรรีบตรวจและพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษา ซึ่งปัจจุบันการรักษามีทั้งไม่ต้องผ่าตัดและผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเคส ความแข็งแรงพื้นฐานของร่างกายเคส ความก้าวหน้าเมื่อรักษาทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ ซึ่งส่วนใหญ่การรักษาด้วยการปรับโครงสร้างร่างกาย คือสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงหลัง คลายกล้ามเนื้อที่มีการตึงรั้งหรือหดสั้น สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแรง คลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่เป็นทางผ่านของเส้นประสาท เรียนรู้การใช้ชีวิตประจำที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้กระตุ้นอาการของโรคนี้ ฯลฯ การรักษากระดูกสันหลังเสื่อมที่ไม่ต้องผ่าตัดนี้จะได้ผลดีมากในเคสที่พึ่งเริ่มมีภาวะเสื่อม …… นั่นหมายความว่า หากเราฟังเสียงเตือนของร่างกายที่กำลังส่งเสียงบอกอาการต่าง ๆอยู่ เราก็สามารถจัดการกับปัญหาความปวดได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากอีกด้วย ปวดหลังยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ยังมีปวดหลังจากภาวะอื่น ๆ อีก แล้วพบกันค่ะ