สวัสดีค่ะ ฉบับนี้มีเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องค่ะจากที่ผู้เขียนเองได้พบเรื่องราวหลายๆ เคสที่มีอาการปวดคอเรื้อรัง ปวดบ่า ปวดสะบัก ปวดร้าวลงแขน ปวดร้าวเข้ากระบอกตา ชามือ ฯลฯเคสเหล่านี้ มักมีคำถามเสมอว่าอาการต่างๆ เหล่านี้ เป็นเพราะคอเสื่อมหรือเปล่า ซึ่งเป็นที่กังวลกันมากเพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า หากเป็นคอเสื่อมจะต้องผ่าตัดเสมอและบ้างก็เคยเห็นว่าถึงรับการผ่าตัดแล้ว ก็ยังต้องผ่าซ้ำอีก หลายๆ ท่านจึงเกิดความกลัวเรื่องของอาการปวดคอเรื้อรังว่าเป็นคอเสื่อมหรือเปล่า วันนี้จึงขอนำข้อเท็จจริงมาเล่าค่ะคอเสื่อม และกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังนั้น อาจดูมีอาการที่ใกล้เคียงกันมากจนผู้ที่มีอาการแยกไม่ออกแต่ในความคล้ายกัน ก็ยังมีบางอาการที่สามารถบอกได้ว่าเป็นคอเสื่อมหรือเป็นเพียงกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ความเหมือนและต่างของสองกรณีนี้คือ
- เริ่มจากอาการที่เป็นเหมือนๆ กันทั้งสองกรณี คือ ปวดตึงๆ แน่นๆ บริเวณคอ บ่า ไหล่ บางเคสทำให้ตามัว พร่าๆ หรือปวดร้าวขึ้นขมับกระบอกตา แต่…
- กล้ามเนื้ออักเสบส่วนใหญ่จะดีขึ้นเมื่อได้เคลื่อนไหว และขยับคอหรือแม้แต่ออกกำลังกายทั่วๆไป แต่หากเป็นคอเสื่อมการเอียงคอ เงยคออาจกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น การออกกำลังกายทั่วไปเช่นการวิ่ง การเดิน อาจกระตุ้นให้มีอาการปวดมากขึ้นเนื่องจากมีแรงกระแทกลงที่หมอนรองกระดูกที่เสื่อม
- กล้ามเนื้ออักเสบมักจะดีขึ้นเมื่อได้นอนพักผ่อนหรือพักจากการทำงาน เพราะไม่ต้องใช้งานกล้ามเนื้อ แต่คอเสื่อมการนอนพักอาจทำให้แย่ลง หรือไม่บรรเทาอาการที่เป็นอยู่ ลักษณะของคอเสื่อมบางเคสตื่นมาใหม่ๆ คอจะแข็งขยับไม่ค่อยได้ แต่พอได้ขยับทำกิจวัตรประจำวันแล้วอาการจะเบาขึ้น
- กล้ามเนื้ออักเสบอาการอาจจะมีทุเลาลงบ้างหากไม่ได้ใช้งานกล้ามเนื้อ แต่คอเสื่อมอาการจะทรุดลงเรื่อยๆ รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
- ทั้งสองกรณีอาจมีชาร้าวลงแขน มืออ่อนแรง แต่หากเป็นคอเสื่อมอาการชาจะดีขึ้นในท่านอนเพราะน้ำหนักศีรษะไม่มีแรงกดลงไปที่หมอนรองกระดูกที่เสื่อม แต่กล้ามเนื้ออักเสบ อาการชาอาจจะดีขึ้นเมื่อได้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพราะการไหลเวียนของเส้นประสาทจากการที่กล้ามเนื้อเกร็งบีบรัดคลายตัวออก
- ส่วนใหญ่คอเสื่อมมักพบมากในผู้ใหญ่ หรือเมื่ออายุมาก หรือกลุ่มคนที่ต้องแบกของหรือใช้งานหนัก แต่กล้ามเนื้ออักเสบมักพบได้ในทุกเพศทุกวัย ฯลฯ
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นอาการส่วนใหญ่ที่พบค่ะ แต่สำหรับบางข้อก็มีรายละเอียดมากกว่านั้น เช่น การชาร้าวลงแขน อาการของทั้งสองกรณีจะเหมือนกันมาก บางทีการยืดกล้ามเนื้อบางมัดก็ทำให้ชามากขึ้น ขึ้นอยู่กับจุดที่มีการเกร็งกดทับ ฯลฯ หรือ กรณีสุดท้ายที่ว่าคอเสื่อมมักพบในผู้ใหญ่มากกว่าวัยรุ่น แต่ปัจจุบันวัยรุ่นใช้ร่างกายเยอะ ก้มใช้มือถือหรือเล่นเกมส์เป็นเวลานานๆ อยู่ในท่าหลังค่อมมาก ก็มักพบคอเสื่อมได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี ก็มีค่ะ
อาการทั้งหมดที่เล่ามา เพื่อให้ท่านผู้อ่านลดความกังวลจากความกลัวเป็นคอเสื่อม เพราะบางเคสอาจไม่ได้รุนแรงมาก ซึ่งในทางกายภาพบำบัด สามารถทำการตรวจคัดกรองประเมินแยกคอเสื่อมกับกล้ามเนื้ออักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการ ก่อนที่จะตัดสินใจไปรับการ X-ray หรือ MRI ที่มีค่าใช้จ่ายสูงการรับการตรวจทางกายภาพก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ ผู้เขียนเองได้พบหลายเคสที่มีอาการปวดคอ และกังวลมากถึงขั้นตัดสินใจไปทำ MRI ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอาการของการกดทับเส้นประสาทด้วยซ้ำค่ะ จึงขอแชร์เป็นกรณีศึกษาให้ท่านผู้อ่านที่มีอาการจะได้ไม่ตระหนกและกังวลมากไปค่ะ
สำหรับการรักษาคอเสื่อมนั้น มีวิถีทางเลือกสำหรับท่านที่ไม่อยากเสี่ยง
รับการผ่าตัด สามารถทำให้คอเสื่อมดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องใช้การผ่าตัด เพราะคอเสื่อมคือการที่หมอนรองกระดูกเสื่อมแคบลง ส่งผลทำให้กดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ จึงเกร็งและปวดขึ้นมา การรักษาที่จะช่วยได้คือการคลายกล้าม เนื้อและการสร้างกล้ามเนื้อมัดลึก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อแกนกลางที่จะช่วยพยุงข้อต่อ ลดแรงกดอัดของหมอนรองกระดูกที่เสื่อม แต่ทั้งนี้ หากเป็นอาการขั้นรุนแรงมาก ก็อาจต้องอาศัยการผ่าตัดค่ะ
เห็นไหมคะว่า การสำรวจความปวดในร่างกายด้วยตัวเอง เป็นแนวทางที่ดีให้ได้คำตอบว่าตนเป็นอะไรในเบื้องต้น แต่หากท่านยังไม่เคลียร์ ลองเลือกวิถีประเมินทางกายภาพบำบัดเพื่อคัดกรองก่อนว่าอาการปวดที่เป็นอยู่นั้น เป็นมาจากอะไร มีสาเหตุอะไร ก็จะช่วยให้เลือกและดำเนินการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
…..แล้วพบกันใหม่ พร้อมเรื่องราวดีๆ ที่จะนำมาเล่ากันอีกนะคะ