จากผลสำรวจล่าสุดที่เผยแพร่ในสำนักข่าวต่างประเทศทั้งเดลิเมล์และเดอะเทเลกราฟ โดยนักวิจัยได้ศึกษาจากผู้หญิงกว่า 16,000 คน พบว่า ผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่มีอัตราเสี่ยงเป็น “มะเร็งเต้านม” สูงกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของต่อมน้ำนมและเนื้องอกมากกว่า ทำให้มีความสัมพันธ์อย่างมากกับการกลายพันธุ์ การเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งเต้านม
นอกจากขนาดหน้าอกที่อาจเสี่ยงต่อมะเร็งแล้ว หากใส่บรารัดแน่นจนเกินไปก็อาจเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเช่นกัน เพราะจากผลวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็น “มะเร็งเต้านม” นั้น อาจมีสาเหตุมาจากใส่ชุดชั้นในที่ค่อนข้างคับหรือรัดมากเกินไป นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ใส่ชุดชั้นในตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอนอีกด้วย
ทั้งนี้ เพราะชุดชั้นในที่ผู้หญิงสวมใส่กันอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะบราหรือชั้นในที่คับจะสร้างแรงกดทับให้กับหน้าอกมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจชินกับบราหรือชั้นในที่ใส่อยู่จนไม่สังเกตอาการผิดปกติ แต่อาจจะทำให้เกิดอันตรายโดยเฉพาะระบบน้ำเหลืองซึ่งจะมีท่อเล็กๆ เชื่อมกับเนื้อเยื่อของหน้าอก และเจ้าท่อที่ว่านี้จะทำหน้าที่ลำเลียงสารพิษของเสีย เซลล์ มะเร็ง ไวรัสแบคทีเรีย และสิ่งต่างๆ ออกไป การใส่ชุดชั้นในจึงเหมือนกับต้องบังคับหน้าอกให้เป็นทรงและปิดทางเดินของน้ำเหลืองจากบริเวณหน้าอกให้มากระจุกตัวเป็นก้อนของเหลว ก็จะเกิดการคั่งค้าง บวมและรวมตัวกันเป็นถุง หรือกระเปาะเล็กๆ ขึ้นมา สารพิษที่ต้องไหลผ่านไปก็มาอัดตัวตามน้ำเหลืองที่ถูกขัดขวางการไหลเวียนจากชุดชั้นในที่กดทับ
แม้ว่าผลวิจัยที่กล่าวมาข้างต้นจะมีหลายฝ่าย ทั้งนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยออกมาโต้แย้งว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะมะเร็งเต้านมเกิดจากสภาพแวดล้อมและกรรมพันธุ์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอีกเช่นกันว่า การใส่บรารัดหรือไม่พอดีไม่ได้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคร้ายดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณหมอนัท-ชรีพรรณ์ เทียมรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อริยะ 7 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย “บราเซียร์” Anatomy Bra กล่าวว่า
“การใส่บราไม่พอดี ไม่เหมาะกับขนาดหน้าอก กิจกรรม และสรีระของผู้สวมใส่ อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการยืนยันว่าสาเหตุของการใส่บราเล็กหรือรัดเกินไป จะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งแต่อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพทางอ้อม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคภัยได้ในอนาคต”
ทั้งนี้ การใส่บราที่ถูกหลักกายวิภาคศาสตร์ ช่วยในการปรับโครงสร้างร่างกาย ทำให้ได้รูปร่าง และบุคลิกภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ของร่างกาย จนถึงขั้นหายปวดในบางราย รวมทั้งได้สภาพกล้ามเนื้อที่เฟิร์ม มีรูปร่างที่ดีเป็นของแถมแล้วไม่กลับมาอ้วนอีก หากยังใส่เป็นประจำและมีวินัยในการดูแลสุขภาพ
สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งนั้น นอกจากปัจจัยเสี่ยงจากพันธุกรรม และการใช้ชีวิตแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย การหมดประจำเดือนช้าลง ผู้หญิงที่ไม่มีลูกหรือมีลูกคนแรกหลังอายุ 35 ปี เมื่อบวกกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ เช่น การใช้ฮอร์โมนเป็นเวลานาน การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน น้ำหนักตัวมาก เหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ง่ายขึ้น”
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เรายังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่มาช่วยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งหรือไม่ เพราะในขณะนี้มะเร็งเต้านมได้กลับมาเป็นผู้ร้ายเบอร์ 1 ที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมะเร็งปากมดลูกครองแชมป์ไปได้ยาวนานพอสมควร โดยมีแนวโน้มการเสียชีวิตด้วยมะเร็งชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก 25.4 ต่อประชากร 100,000 คน ขณะที่ในอังกฤษมีรายงานว่า ผู้หญิง 1 ใน 4 คน เป็นมะเร็งเต้านมซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวผู้หญิงเข้ามาทุกขณะ
ดังนั้น ไม่ว่าการวิจัยที่พูดถึงเรื่องบรากับมะเร็งจะมีข้อเท็จจริงอย่างไร ทางที่ดี สาวๆ ต้องยึดหลักสายกลางไว้ ด้วยการเลือกบราที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่คับหรือหลวมเกินไป เพราะสุดท้ายนอกจากจะไม่เสี่ยงมะเร็งแล้ว ยังไม่เสี่ยงโรคอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อและระบบประสาทอีกด้วย
