ในยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นยุคที่มากไปด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เป็นความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุ จนทำให้ผู้คนหลงมัวเมาอยู่กับความเจริญเหล่านี้ อีกทั้งค่านิยมที่เปลี่ยนไปของคนไทยไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมประเพณี ความเป็นอยู่ บุคลิกท่าทาง การแสดงออก การแต่งตัว การใช้ชีวิต ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนที่มองเห็นเพียงด้านเดียว แต่อีกด้านหนึ่งจะเห็นได้ว่าความเจริญทางวัตถุและค่านิยมมาพร้อมกับการทำลายสุขภาพร่างกายและจิตใจ กัดกร่อนเป็นภัยเงียบที่คุกคามเราโดยไม่รู้ตัว ในทางสถิติจะเห็นได้ว่าอายุโดยเฉลี่ยของคนในสังคมปัจจุบันสั้นลง รวมทั้งมีคนเป็นโรค เจ็บป่วยด้วยภาวะต่างๆมากขึ้นทุกวัน จะเห็นได้จากอัตราการบริโภคยาของคนไทยในปัจจุบัน เพิ่มสูงขึ้นจนน่าเป็นห่วง
ด้วยสังคมความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป ปัจจัยที่เป็นภาวะกระทบต่อร่างกายก็มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน วัยใด ความเสื่อมของร่างกายก็เร็วกว่าเวลาอันควร ภาวะหนึ่งซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นหรือเปล่านั่นก็คือ “ภาวะกระดูกสันหลังคด” เป็นโรคที่เสมือนภัยเงียบที่คอยกัดกร่อนร่างกาย จะรู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อร่างกายฟ้องออกมาด้วยอาการเจ็บ ปวด กล้ามเนื้อเรื้อรัง และถึงขั้นกระทบระบบประสาท มีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาจเสี่ยงต่อการเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นโรครุนแรงต่างๆ ตามมาได้ ซึ่งแน่นอนหากเป็นมากแล้ว ยากต่อการที่จะรักษาให้กลับมาได้เหมือนเดิม
กระดูกสันหลัง ถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นที่อยู่ของไขสันหลังที่ต่อมาจากสมอง เป็นทางออกของรากประสาทที่จะนำคำสั่งจากสมองไปสู่อวัยวะต่างๆ เพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากแนวกระดูกสันหลังไม่เรียงตัวอยู่ในแนวที่ปกติ ผลกระทบที่มีต่อร่างกายก็ค่อนข้างมาก เริ่มจากอาการไม่คล่องตัว อาการปวดกล้ามเนื้อ ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆได้ในอนาคต
กระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังไม่ได้เรียงตัวอยู่ในแนวที่ถูกต้อง ไม่เป็นเส้นตรง แต่เบนออกทางซ้ายหรือขวา และเนื่องจากกระดูกสันหลังถือเป็นเสาหลักของร่างกาย เมื่อเบนไปจากปกติ จะมีผลกับส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย ซึ่งอาจพบว่า คอเอียงไปด้านหนึ่ง แก้มสองข้างไม่เท่ากัน บ่า-สะบักสองข้างไม่เท่ากัน รอยคอดของเอวสองข้างไม่เท่ากัน สะโพกสองฝั่งไม่เท่ากัน ขาสองข้างไม่เท่ากัน ทั้งหมดนี้อาจจะสังเกตเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่า ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้คร่าวๆ ว่าเป็นกระดูกสันหลังคดได้ สาเหตุของกระดูกคด เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากแต่ถูกมองข้ามไป หลักๆก็คือ อิริยาบถในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นยืน เดิน นั่ง นอน ที่ไม่ถูกต้องเช่น การนอนตะแคงทับข้างใดข้างหนึ่ง การนั่งไขว่ห้าง การนั่งแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน การนั่งเท้าแขน การหิ้วของหรือสะพายกระเป๋าที่หนัก ชอบสะพายข้างใดข้างหนึ่ง นั่งก้มหน้าทำคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ยืนพักขาข้างเดียว ยืนพิงผนัง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้เป็นความเคยชินที่ติดจนเป็นนิสัย กลายเป็นบุคลิกภาพ และสะสมทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อไม่สมดุล
กระดูกเรียงอยู่ได้ในแนวปกติ ภายใต้กล้ามเนื้อฝั่งซ้าย-ขวา หน้า-หลัง ที่ทำงานอย่างสมดุล เพื่อขึงให้กระดูกอยู่ในแนวตรง เปรียบเสมือนเชือกที่เล่นชักเย่อ เมื่อใดที่กล้ามเนื้อฝั่งใดฝั่งหนึ่งไม่สมดุล กึ่งกลางของเชือกก็จะเบนไปทางด้านนั้น กระดูกสันหลังของเราก็เช่นเดียวกัน หากกล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป ติดอยู่ในท่าเดิมประจำ ด้วยความเคยชิน นึกภาพการยืนพักขา เข่าข้างหนึ่งหย่อน ทำให้สะโพกเอียงตาม กระดูกสันหลังก็เอนลงข้างหนึ่ง บ่าและศีรษะก็บิด หากต้องอยู่ในท่าเช่นนี้ สะสม ทำให้ในที่สุดกระดูกก็คดตามมา
ผลเสียของกระดูกคดไม่ใช่แค่จะทำให้บุคลิกภาพไม่ดีเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะเป็นการสะสมให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ได้มากมาย เริ่มจากการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรัง เป็นพังผืด ระบบภายในร่างกายด้อยประสิทธิภาพลง ระบบการไหลเวียน ของเลือด ระบบน้ำเหลือง ระบบประสาท ถูกจำกัดลง เมื่อร่างกายโดนผลกระทบแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เป็นโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างง่ายดาย และอาจทำให้เป็นโรคร้ายแรงได้ก่อนวัยอันควร
การดูแลรักษาภาวะกระดูกสันหลังคด ส่วนใหญ่แล้วเน้นใช้การผ่าตัด ซึ่งได้ผลเร็วทันใจ คือทำให้ตรง แต่ผลเสียก็คือจะจำกัดการเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างที่หนักหรือกระแทกได้ และที่น่ากลัวก็คือพังผืดที่ยึดหลังการผ่าตัด อาจมีผลทำให้มีอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง หรือไม่คล่องตัวได้ การใส่เสื้อเกราะ(Brace) มีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง เพราะถูกยึดไว้ แต่อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นการปรับตามวิถีธรรมชาติ คือค่อยปรับสภาพกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็นต่างๆ ให้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง สร้างกำลังกล้ามเนื้อให้สมดุล แข็งแรง เพราะกระดูกอยู่ได้ด้วย เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ เมื่อปรับกล้ามเนื้อให้สมดุลแล้ว กระดูกก็จะค่อยๆปรับเรียงตัวให้อยู่ในความโค้งที่ถูกต้องเอง หรือที่เราเรียกว่า การปรับโครงสร้างร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่มีผลข้างเคียงและความเสี่ยงใดๆ
การปรับโครงสร้างร่างกาย นอกจากจะส่งเสริมให้ระบบในร่างกายเสมือนมีเกราะป้องกันโรคต่างๆได้แล้ว ผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่ตามมาก็คือ การมีบุคลิกภาพที่ดี รูปร่างที่สมส่วน จากกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และเรียงตัวอยู่ในแนวที่เหมาะสม ภาวะกระดูกคดเป็นปัญหาสุขภาพซึ่งพบได้ทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะดูแลร่างกายได้ดี ถูกต้องเหมาะสม หากเป็นไปแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อสงสัยว่ากระดูกคดหรือไม่? ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม สิ่งที่ดีที่สุดคือป้องกันตัวเองให้อยู่ในอิริยาบถที่ถูกต้อง เจริญสติรู้กาย รู้ใจอยู่เสมอ ก็จะทำให้ป้องกันปัญหากระดูกคดได้
ไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หากเราทำตัวให้แข็งแรง มีโครงสร้างร่างกายที่ดี ก็เสมือนมีภูมิต้านทานที่ดีให้กับร่างกาย แต่ภูมิต้านทานที่สำคัญกว่าคือ จิตใจ เราควรดูแลจิตใจให้เข้มแข็ง ฝึกออกกำลังกายแล้วต้องฝึกออกกำลังใจด้วย ถึงจะเรียกได้ว่าแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตวิญญาณอย่างแท้จริง